อาจารย์ในร้านคุ้กกี้เล่มนี้ได้มาจากกิจกรรมแลกกันอ่านกับเพื่อนในที่ทำงาน โดยพวกเรามีกำหนดส่งต่อหนังสือกันในทุกๆ วันพฤหัสบดี ซึ่งตอนนี้กำลังเข้าสู่สัปดาห์ที่ 16 แล้ว

นี่เป็นอีกหนึ่งงานเขียนของคุณนิ้วกลม ที่อ่านแล้วกลมกล่อม ละมุนลิ้นมาก โดยเนื้อหาในเล่มเป็นการประกาศภาวะฉุกคิดว่าเราสามารถเรียนรู้อะไรได้บ้างจากสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา
ได้มีการหยิบยกเหตุการณ์ขึ้นมาหลายอย่างแบ่งเป็นบท ในแต่ละบทมีเนื้อหาที่ไม่ยาวมากและจบในตัวเองไม่ต่อเนื่อง ไม่เรียงลำดับ ใคร่อ่านบทไหนก็กระโดดไปได้เลย
อย่างบทนึงเป็นเหตุการณ์ของชายเข็นรถที่เยาวราช เกี่ยวกับการเลือกใช้คำในแต่ละสถานการณ์ ซึ่งถ้าเราเลือกใช้คำที่ดี ก็สามารถโน้มน้าวใจคนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ส่วนตัวชอบบทที่เขียนถึงไมเคิล เฟลป์ส “ถ้าอยากชนะมากพอ เราจะชนะ” เกี่ยวกับการฝึกซ้อมของเค้าซึ่ง ซ้อมหนัก ซ้อมเยอะ ถึงวันละ 16 ชั่วโมง
เหมือนร่วมชะตากรรมเดียวกันกับการเป็น Software developer ที่ต้องฝึกฝนตัวเองอยู่ตลอดเพื่อตามเทคโนโยลีที่เปลี่ยนไปให้ทัน
แล้วบทนี้ก็ทิ้งท้ายไปด้วยประโยคที่ว่า
“บางทีที่เราทำสิ่งต่างๆ ไม่สำเร็จ มันไม่ใช่เพราะเราทำไม่ได้ แต่เราอยากชนะไม่มากพอ”
หากย้อนไปเมื่อ 3-4 เดือนก่อน เราก็คงจะพูดคุยกันว่า New year resolution ของแต่ละคนคืออะไรกันบ้าง ซึ่งในงาน Town hall ของที่ทำงาน ก็มีพูดคุยกันในเรื่องนี้ และก็โดนจิ้มเพื่อถามว่า New year resolution คืออะไร
เอาเข้าจริงแล้วในแต่ละปี สิ่งที่คิดไว้เมื่อต้นปี เมื่อตรวจดูในตอนปลายปีแล้ว แทบไปกันละทิศละทาง สิ่งที่อยากทำ อยากเป็น ก็แทบไม่เกิดขึ้นเลย จนอดคิดไม่ได้ว่า ที่จริงแล้วเราไม่ต้องทำสิ่งเหล่านี้ก็ได้
จนกระทั่งในคืนวันศุกร์คืนหนึ่ง นั่งเลื่อนๆ Netflix ไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้ไปเจอกับ Forrest gump เพื่อนเก่าอีกครั้ง ถึงแม้จะเคยดูแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้การรับรู้ในเนื้อหาของหนังไม่เหมือนเดิม
อาจเป็นเพราะกินอิ่มเกินไป หรืออะไรก็ตาม แต่ฉากนี้นั่งน้ำตาคลอ Forrest ปลดล็อคตัวเองสำเร็จ ความกังวลในขาของตัวเองหมดไป แล้วตอนที่ขาเหล็กที่ดามเอาไว้หลุดกระจุย พร้อมกับการวิ่งฝุ่นตลบ ทำให้ฉุกคิดว่า เรากำลังใส่เหล็กดามขาอยู่หรือเปล่า
ดูเหมือนว่าแต่ละช่วงชีวิตของ Forrest จะมีเอี่ยวกับประโยคนี้เสมอ เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน วิ่งทั้งๆ ที่ใส่เหล็กดามขาอยู่นั่นแหละ แล้วเดี๋ยวเหล็กที่ดามขาอยู่มันจะกระจุยไปเอง แล้วจะรออะไรอยู่ Run, Akekapon, Run!

หลังจากผ่านพ้นช่วงสมัยเรียนมา ก็แทบลืมไปเลยว่าเราเคยผอม แต่หลังจากศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการกิน แล้วก็ทดลองทำมาเรื่อยๆ ทำได้บ้าง ล้มเหลวบ้าง ปะปนกันไป ทำให้รู้ว่าแค่ปรับปรุงวิธีการกินใหม่ ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ไม่ยาก
วางแผนมาหลายปีที่จะหัดเขียนภาษา Python แต่ก็ยึกยักๆ แล้วก็หมดปี วนเวียนไปแบบนี้ตลอด จนมาวันหนึ่ง ได้รับผิดชอบงานนึง ซึ่งจะใช้ภาษา PHP ทำไปอย่างเดิมก็ได้ แต่ถ้าใช้ Python จะมี Lib ช่วยให้เราทำงานง่ายขึ้น (สำหรับคนที่เป็นอยู่แล้ว) แต่ก็ได้ยินเสียง Run, Akekapon, Run! กระซิบอยู่ในหู (แอบหลอน) ทำให้เกิดสัปดาห์นรก ทำไป เปิด Google ไป กลับดึกทั้งสัปดาห์ จนตอนนี้รักภาษานี้มาก เสียดาย น่าจะหัดเขียนนานแล้ว แต่ก็ต้องขอบคุณหัวหน้า(พี่โอ๋) ที่อดทนและกล้าเสี่ยงอนุญาตให้ทำ เพราะมีความเสี่ยงว่าจะล้มเหลวสูงทีเดียว

เรื่องนี้อาจดูตลกหน่อย แต่มันมีความยึกยักมาหลายปีแล้ว เตรียมอยู่นั่นแหละ ไม่ได้ทำซะที ซึ่งปลดล็อคโดยการไปดูเลย ที่ไหนขายต้นไม้ แล้วก็ทำมันทั้งที่ไม่รู้นั่นแหล่ะ ลองผิดลองถูกกันไป (แม้จะหนักไปทางผิดก็ตาม ฮา…)
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ยิ่งใหญ่ ไม่ได้เปลี่ยนโลก แต่มันคือการเอาชนะใจตัวเอง ได้ลองทำดูหากใครผ่านมาที่ Post นี้ แล้วมีสิ่งที่ยึกยักๆ ว่าจะทำ แล้วไม่ได้ทำเสียที ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว ลองดูเลย สนุกแน่นอน
Run, Forrest, Run!
แอบจั่วหัวเลียนแบบเว็บไซต์ที่กำลังฮิตกันช่วงนี้ ไม่รู้จะยังพอมีคนคลิกเข้ามาดูบ้างมั้ยน้อ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า บางคนอาจจะยังไม่เคยเข้าเว็บ Sitepoint แล้วคงจะสงสัยว่าเว็บนี้มีอะไรดี คือที่เว็บนี้เค้ามีคอร์สให้ Web Developer เข้าไปเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง มีทั้งแบบ Free และแบบ Premium
สำหรับวันนี้จะพาไปรับสิทธิ์ Premium กันแบบ Free โดยที่มีเงื่อนไขว่าเราจะต้องสมัครบัญชีของเว็บ Bitbucket ด้วย หลังจากนั้นให้เราทำ screenshot หน้าที่เราไปสมัคร Bitbucket มาแล้ว ส่งเมล์ไปที่ bitbucket@sitepoint.com แล้วเราก็จะได้รับโค้ดทางอีเมล์หลังจากที่ทางทีมงานตรวจสอบเรียบร้อย มาเริ่มกันที่ละขั้นตอนเลยดีกว่า
สมัครสมาชิกเว็บ Bitbucket กันก่อนเลย click หลังจากนั้นคลิกที่ปุ่มสีเขียว Get started for free

หลังจากที่สมัครเสร็จ ให้ยืนยันตัวตนที่ได้รับจากทางอีเมล์ แล้วทำ screenshot หน้าแบบนี้เอาไว้ ส่งไปที่ bitbucket@sitepoint.com
หลังจากที่เค้าทำการตรวจสอบเรียบร้อยก็จะได้ voucher
เท่านี้ก็เรียบร้อย
วันหยุดสุดสัปดาห์นี้บรรดาคู่รักหนุ่มสาวคงวางแผนฉลองวันวาเลนไทน์กันแล้วสินะ เพราะวันวาเลนไทน์ปีนี้ตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี แต่สำหรับคนที่ไม่มีคู่ก็ไม่ต้องน้อยใจไป วันวาเลนไทน์ปีนี้อาจได้พบกับเนื้อคู่ได้นะ
เมื่อพูดถึงวันวาเลนไทน์แล้วทำให้นึกถึงเพื่อนคนนึงที่วันคล้ายวันเกิดตรงกับวันวาเลนไทน์พอดี ซึ่งเท่ห์มากๆ มีคนจัดงานวันเกิดให้ทั่วโลกเลย แล้วก็สุขสันต์วันเกิด มีความสุขมากๆ เนาะ Natt
นอกเรื่องกันไปไกลกลับมาที่เรื่อง Facebook cover ก่อนดีกว่า สำหรับเว็บนี้เค้าจะมี Facebook cover วันวาเลนไทน์ให้เราเลือกมากมาย
หลังจากที่เราเจอภาพที่ถูกใจแล้วก็คลิกเข้าไปเลย แล้วจะพบกับหน้ารายละเอียดที่ด้านใน แล้วคลิกที่ปุ่ม Download Cover
แล้วเราจะพบกับภาพที่เป็นขนาดจริง ทีแรกคิดว่ากดปุ่ม Download Cover ก็จะได้ภาพแล้วซะอีก แต่ยัง เมื่อมาถึงที่หน้านี้ เราต้องกด Save as กันอีกรอบ
ถ้าพร้อมแล้วอย่ารอช้า ไปหาภาพ Facebook cover วันวาเลนไทน์ที่ถูกใจกันเลย
http://profilerehab.com/browse/facebook/valentines_day_covers/
งานนี้จัดขึ้นที่ซีคอนบางแค ก็มันใกล้บ้านเนาะ โดยงานจัดตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 56 ถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 56 ซึ่งแน่นอนในวันอาทิตย์ที่มีกิจกรรมแบบนี้คนย่อมมหาศาลอยู่แล้ว เลยได้มาเพียงไม่กี่ภาพเท่านั้น
แทบลืมไปสนิทว่ายังมีเว็บนี้อยู่ที่ปล่อยให้เหงามานานหลายสัปดาห์แล้ว ซึ่งหลังจากได้พูดคุยกับเสี่ยพี่เจี๊ยบก็เกิดแรงฮึดขึ้นมาช่วงนึงว่าเราจะต้องเขียน blog ให้ได้ ก็ขยันทำได้แป๊บเดียวแล้วก็กลับมาเนือยเหมือนเดิม
มาคราวนี้ก็ลงรูปซะหน่อยแล้วกัน เป็นรูปที่ถ่ายพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พยายามถ่ายด้วยเลนส์คิทช่วง 18-55 ก็ค้นพบว่ามันฝืนธรรมชาติเกินไป ฮ่าๆ
มาคราวนี้เปลี่ยนใหม่ เพิ่ม item นิดนึงแล้วมาทำภารกิจล่าดวงจันทร์ด้วย tamron 70-300 ซึ่งทันทีที่เล็งไปที่เป้าหมายนั้นก็สัมผัสได้ถึงพระจันทร์ที่มองผ่านเลนส์ มันช่างสวยงามกว่าตอนมองผ่าน 18-55 มากมาย
ก็ทำตามที่ได้นั่งหาข้อมูลมาโดยใช้การวัดแสงเฉพาะจุด แล้วปรับ under ลงไป 1 stop รูรับแสง 8 ถ้าใครผ่านไปผ่านมาแล้วมีเทคนิคแจ่มๆ ก็รบกวนชี้แนะด้วยนะคร้าบ
วันนี้จะมารีวิวบุฟเฟต์ อีกครั้ง ร้าน Giant ปิ้งย่่างแนวยากินิคุ ร้านนี้มีหลายสาขาและราคาต่างกันไปตามสาขา
สาขาที่เราจะพาไปชิมวันนี้คือสาขา ซีคอนบางแค
ที่สาขานี้คนค่อนข้างเต็มตลอดๆ อ้อที่ร้านนี้ไม่มีแซลมอน
แต่ก็มีปลาฮามาจินะ ช่วงที่เราไปเป็นเทศกาลกุ้ง ( แต่ก็เห็นเทศกาลกุ้งมานานละนะ555) โดยส่วนตัวไปร้านนี้หลายครั้งชอบ นั่งฝั่งขวามากกว่าบริการดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เมนูร้านนี้ก็หลากหลายดี มีทั้งเมนูทะเล เมนูเนื้อ หมู ไส้กรอก และผัก
อาหารค่อนข้างสด และบริการดี น้ำจิ้มหลักอร่อยครับ แต่ไม่ค่อยชอบน้ำจิ้มแจ่ม กับโคชูจัง เราว่าเค็มไป ส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ดต้องขอเพิ่มจากน้องพนักงานนะครับ รวมๆแล้วชอบครับอาหารได้เร็ว เปลี่ยนตะแกรงให้บ่อยดี แต่ก็มีบางครั้งงที่สั่งไปแล้วได้ไม่ครบ ต้องสั่งกันใหม่ แต่ยังไงก็แนะนำให้ไปลองครับ 
คราวนี้ เป็นรีวิวที่ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่ร้านบ้านมัควาฬ 72
อยูุ่ใกล้ๆกับสนามมวยราชดำเนิน แต่อยู่ในซอยเล็กๆ ค่อนข้างส่วนตัว ทำให้สังเกตุยากสักหน่อย แต่มีป้ายไฟตรงปากซอยให้เป็นจุดสังเกตุอยู่
บรรยากาศในร้านสบายๆ มีสองชั้น คนไม่แน่นมาก มีดนตรีสด วันที่มาเป็นวงที่มีนักร้องเล่นกีตาร์ ดูโอ้กับนักไวโอลิน ฟังเพลินๆ
อาหารร้านนี้ อร่อย หน้าตาดี แต่มีบางอย่างที่ค่อนข้างแปลกสำหรับเรา เช่น เมนูเห่าดง และที่นี่ ยังมีโต๊ะพูลให้บริการฟรีด้วยล่ะ โดยรวมแล้วค่อนข้างประทับใจ ทั้งบรรยากาศ อาหาร และดนตรี แต่ยุงเยอะไปนิด
หากพูดถึง smart phone หลายๆ คนอาจคิดถึง iPhone ของ Apple ที่ใช้ iOS เป็นระบบปฏิบัติการ ก่อนเป็นอันดับแรก หรือบางคนอาจนึกถึงบรรดา Galaxy รุ่นต่างๆ จากฝั่ง Samsung โดยใช้ Android เป็นระบบปฏิบัติการ
แต่ยังมีอีกทางเลือกนึงคือ windows phone 8 ซึ่งมาพร้อมกับ Nokia Lumia รุ่นต่างๆ ที่กำลังทำตลาดอยู่ ณ ตอนนี้ ซึ่งมีให้เลือกหลายรุ่นด้วยกัน
Nokia Lumia 920 เทคโนโลยี PureView ภาพถ่ายคมชัดทุกรายละเอียด

Nokia Lumia 820 ดีไซน์สะดุดตา เปลี่ยนฝาหลังได้

Nokia Lumia 720 ดีไซน์เหนือชั้น เพื่อไลฟ์สไตล์สุดชิค

Nokia Lumia 620 สีสันสดใส เปลี่ยนฝาหลังได้ตามชอบใจ

Nokia Lumia 520 คุณสมบัติครบ ในราคาสุดเลิฟ
จั่วหัวเอาไว้แล้วว่าดูที่งบ 1 หมื่น เราคงต้องมาจับตาดูที่ตัว Nokia Lumia 720 กันดีกว่า ซึ่งราคาบนหน้าเว็บ Nokia ตกอยู่ที่ 10,900 บาท ทีนี้เรามาดูความสามารถของ Nokia Lumia 720 กันว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง
ผลงานการถ่ายภาพจาก Nokia Lumia 720